WWW.AMNUAYSILPA.NET
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

กาทู้สาระ

+6
Thanankron 56
Keang56
Jo 9Leow
taey56
Leo56
Yoon
10 posters

หน้า 5 จาก 9 Previous  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9  Next

Go down

กาทู้สาระ - Page 5 Empty Re: กาทู้สาระ

ตั้งหัวข้อ  taey56 Thu Dec 17, 2009 4:10 pm

Keang56 พิมพ์ว่า:ชาชนิดที่เหมาะกับคนดื่ม



เรื่องกินเรื่องดื่ม เป็นเรื่องของศาสตร์และศิลปะการดำรงชีวิต แม้แต่จิบหรือดื่มชา เครื่องดื่มยอดนิยม ยังมีวาระและโอกาสในการดื่ม มาฟังกันว่า ชาแบบไหนเหมาะกับแต่ละคนอย่างไร ...

คนทำงานแบบใช้สมอง ซีเรียสเครียดทั้งวัน หรือนักเรียน นักศึกษาที่ตรากตรำอ่านตำรับตำราจนดึกดื่น ควรดูดชา มะลิ
ผู้รักการออกกำลังกาย หรือทำงานใช้แรงเสียเหงื่อมาก เหมาะกับ ชาอูหลง


ผู้ต้องผจญสูดดมอากาศเป็นพิษอยู่เสมอ อาทิ ผู้ขับขี่หรือไปมาด้วยรถจักรยานยนต์เป็นประจำ เหมาะกับ ชาเขียว


ผู้ที่ในแต่ละวันนั่งตัวติดกับเก้าอี้ ไม่ค่อยขยับเขยื้อนกายไปไหน ทั้งไม่ชอบออกกำลังกายด้วย ต้องชาเขียว หรือ ชาดอกไม้


ผู้ที่ชอบดื่มสุรา เครื่องดื่มมึนเมา ควรดื่ม ชาเขียว


ผู้นิยมกินเนื้อสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ เหมาะกับ ชาอูหลง


คนท้องผูก ปลดทุกข์แต่ละครั้งช่างทุกข์ทรมานเหลือเกินเหมาะกับ ชาผสมน้ำผึ้ง


คนมีระดับคอเลสเตอรอลสูง ไขมันในเลือดสูง ต้องดื่ม ชาอูหลง หรือ ชาเขียว

มนุษย์ยุคไฮเทคนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวันทั้งคืน ได้ดื่มชาอะไรก็ได้ เป็นประจำจะดีมากๆ เรียกว่าว่างเมื่อไรคว้าแก้วน้ำชาข้างมือยกมาดื่มสักอึกสองอึกแก้กระหาย จะช่วยป้องกันรังสีที่แผ่ออกมาจากเครื่อง อีกทั้งช่วยคลายเส้นคลายกระดูก ลดความอาการอ่อนเพลียได้อย่างชะงัดนัก
สบายตัวเลยเพื่อนกู
taey56
taey56

จำนวนข้อความ : 1322
Join date : 12/10/2009

ขึ้นไปข้างบน Go down

กาทู้สาระ - Page 5 Empty Re: กาทู้สาระ

ตั้งหัวข้อ  Yoon Thu Dec 17, 2009 4:56 pm

taey56 พิมพ์ว่า:
Keang56 พิมพ์ว่า:ชาชนิดที่เหมาะกับคนดื่ม



เรื่องกินเรื่องดื่ม เป็นเรื่องของศาสตร์และศิลปะการดำรงชีวิต แม้แต่จิบหรือดื่มชา เครื่องดื่มยอดนิยม ยังมีวาระและโอกาสในการดื่ม มาฟังกันว่า ชาแบบไหนเหมาะกับแต่ละคนอย่างไร ...

คนทำงานแบบใช้สมอง ซีเรียสเครียดทั้งวัน หรือนักเรียน นักศึกษาที่ตรากตรำอ่านตำรับตำราจนดึกดื่น ควรดูดชา มะลิ
ผู้รักการออกกำลังกาย หรือทำงานใช้แรงเสียเหงื่อมาก เหมาะกับ ชาอูหลง


ผู้ต้องผจญสูดดมอากาศเป็นพิษอยู่เสมอ อาทิ ผู้ขับขี่หรือไปมาด้วยรถจักรยานยนต์เป็นประจำ เหมาะกับ ชาเขียว


ผู้ที่ในแต่ละวันนั่งตัวติดกับเก้าอี้ ไม่ค่อยขยับเขยื้อนกายไปไหน ทั้งไม่ชอบออกกำลังกายด้วย ต้องชาเขียว หรือ ชาดอกไม้


ผู้ที่ชอบดื่มสุรา เครื่องดื่มมึนเมา ควรดื่ม ชาเขียว


ผู้นิยมกินเนื้อสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ เหมาะกับ ชาอูหลง


คนท้องผูก ปลดทุกข์แต่ละครั้งช่างทุกข์ทรมานเหลือเกินเหมาะกับ ชาผสมน้ำผึ้ง


คนมีระดับคอเลสเตอรอลสูง ไขมันในเลือดสูง ต้องดื่ม ชาอูหลง หรือ ชาเขียว

มนุษย์ยุคไฮเทคนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวันทั้งคืน ได้ดื่มชาอะไรก็ได้ เป็นประจำจะดีมากๆ เรียกว่าว่างเมื่อไรคว้าแก้วน้ำชาข้างมือยกมาดื่มสักอึกสองอึกแก้กระหาย จะช่วยป้องกันรังสีที่แผ่ออกมาจากเครื่อง อีกทั้งช่วยคลายเส้นคลายกระดูก ลดความอาการอ่อนเพลียได้อย่างชะงัดนัก
สบายตัวเลยเพื่อนกู
ชาเลีย Shocked แผล็บๆ
Yoon
Yoon

จำนวนข้อความ : 878
Join date : 13/10/2009
ที่อยู่ : Dubaiบุรี 元首相

ขึ้นไปข้างบน Go down

กาทู้สาระ - Page 5 Empty Re: กาทู้สาระ

ตั้งหัวข้อ  Thanankron 56 Thu Dec 17, 2009 8:59 pm

Yoon พิมพ์ว่า:
taey56 พิมพ์ว่า:
Keang56 พิมพ์ว่า:ชาชนิดที่เหมาะกับคนดื่ม



เรื่องกินเรื่องดื่ม เป็นเรื่องของศาสตร์และศิลปะการดำรงชีวิต แม้แต่จิบหรือดื่มชา เครื่องดื่มยอดนิยม ยังมีวาระและโอกาสในการดื่ม มาฟังกันว่า ชาแบบไหนเหมาะกับแต่ละคนอย่างไร ...

คนทำงานแบบใช้สมอง ซีเรียสเครียดทั้งวัน หรือนักเรียน นักศึกษาที่ตรากตรำอ่านตำรับตำราจนดึกดื่น ควรดูดชา มะลิ
ผู้รักการออกกำลังกาย หรือทำงานใช้แรงเสียเหงื่อมาก เหมาะกับ ชาอูหลง


ผู้ต้องผจญสูดดมอากาศเป็นพิษอยู่เสมอ อาทิ ผู้ขับขี่หรือไปมาด้วยรถจักรยานยนต์เป็นประจำ เหมาะกับ ชาเขียว


ผู้ที่ในแต่ละวันนั่งตัวติดกับเก้าอี้ ไม่ค่อยขยับเขยื้อนกายไปไหน ทั้งไม่ชอบออกกำลังกายด้วย ต้องชาเขียว หรือ ชาดอกไม้


ผู้ที่ชอบดื่มสุรา เครื่องดื่มมึนเมา ควรดื่ม ชาเขียว


ผู้นิยมกินเนื้อสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ เหมาะกับ ชาอูหลง


คนท้องผูก ปลดทุกข์แต่ละครั้งช่างทุกข์ทรมานเหลือเกินเหมาะกับ ชาผสมน้ำผึ้ง


คนมีระดับคอเลสเตอรอลสูง ไขมันในเลือดสูง ต้องดื่ม ชาอูหลง หรือ ชาเขียว

มนุษย์ยุคไฮเทคนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวันทั้งคืน ได้ดื่มชาอะไรก็ได้ เป็นประจำจะดีมากๆ เรียกว่าว่างเมื่อไรคว้าแก้วน้ำชาข้างมือยกมาดื่มสักอึกสองอึกแก้กระหาย จะช่วยป้องกันรังสีที่แผ่ออกมาจากเครื่อง อีกทั้งช่วยคลายเส้นคลายกระดูก ลดความอาการอ่อนเพลียได้อย่างชะงัดนัก
สบายตัวเลยเพื่อนกู
ชาเลีย Shocked แผล็บๆ
รสชาติดี แต่อาจมีขนติดปากได้
Thanankron 56
Thanankron 56

จำนวนข้อความ : 513
Join date : 20/10/2009
: 59
ที่อยู่ : Laksi Bangkok

ขึ้นไปข้างบน Go down

กาทู้สาระ - Page 5 Empty Re: กาทู้สาระ

ตั้งหัวข้อ  Yoon Fri Dec 18, 2009 6:22 pm

Thanankron 56 พิมพ์ว่า:
Yoon พิมพ์ว่า:
taey56 พิมพ์ว่า:
Keang56 พิมพ์ว่า:ชาชนิดที่เหมาะกับคนดื่ม



เรื่องกินเรื่องดื่ม เป็นเรื่องของศาสตร์และศิลปะการดำรงชีวิต แม้แต่จิบหรือดื่มชา เครื่องดื่มยอดนิยม ยังมีวาระและโอกาสในการดื่ม มาฟังกันว่า ชาแบบไหนเหมาะกับแต่ละคนอย่างไร ...

คนทำงานแบบใช้สมอง ซีเรียสเครียดทั้งวัน หรือนักเรียน นักศึกษาที่ตรากตรำอ่านตำรับตำราจนดึกดื่น ควรดูดชา มะลิ
ผู้รักการออกกำลังกาย หรือทำงานใช้แรงเสียเหงื่อมาก เหมาะกับ ชาอูหลง


ผู้ต้องผจญสูดดมอากาศเป็นพิษอยู่เสมอ อาทิ ผู้ขับขี่หรือไปมาด้วยรถจักรยานยนต์เป็นประจำ เหมาะกับ ชาเขียว


ผู้ที่ในแต่ละวันนั่งตัวติดกับเก้าอี้ ไม่ค่อยขยับเขยื้อนกายไปไหน ทั้งไม่ชอบออกกำลังกายด้วย ต้องชาเขียว หรือ ชาดอกไม้


ผู้ที่ชอบดื่มสุรา เครื่องดื่มมึนเมา ควรดื่ม ชาเขียว


ผู้นิยมกินเนื้อสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ เหมาะกับ ชาอูหลง


คนท้องผูก ปลดทุกข์แต่ละครั้งช่างทุกข์ทรมานเหลือเกินเหมาะกับ ชาผสมน้ำผึ้ง


คนมีระดับคอเลสเตอรอลสูง ไขมันในเลือดสูง ต้องดื่ม ชาอูหลง หรือ ชาเขียว

มนุษย์ยุคไฮเทคนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวันทั้งคืน ได้ดื่มชาอะไรก็ได้ เป็นประจำจะดีมากๆ เรียกว่าว่างเมื่อไรคว้าแก้วน้ำชาข้างมือยกมาดื่มสักอึกสองอึกแก้กระหาย จะช่วยป้องกันรังสีที่แผ่ออกมาจากเครื่อง อีกทั้งช่วยคลายเส้นคลายกระดูก ลดความอาการอ่อนเพลียได้อย่างชะงัดนัก
สบายตัวเลยเพื่อนกู
ชาเลีย Shocked แผล็บๆ
รสชาติดี แต่อาจมีขนติดปากได้
เคยล่ะสิ
Yoon
Yoon

จำนวนข้อความ : 878
Join date : 13/10/2009
ที่อยู่ : Dubaiบุรี 元首相

ขึ้นไปข้างบน Go down

กาทู้สาระ - Page 5 Empty Re: กาทู้สาระ

ตั้งหัวข้อ  Keang56 Sun Dec 20, 2009 11:36 am

ไม่อยากแก่ เรามีเคล็ดลับมาบอก


อาจกล่าวได้ว่า เมื่อเวลาเราเห็นใครๆ ที่ดูอ่อนกว่าวัย ย่อมเกิดคำถามตามมาว่า ทำอย่างไรจึงดูดีอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ พี่ น้อง ที่ดูยังไงก็ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่า เขาเป็นพี่น้อง พ่อลูก หรือแม่ลูกกัน ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญได้แนะวิธีคงความหนุ่มสาว ซึ่งมีทั้งหมด 14 ข้อ ดังนี้

1. แคลอรี่เยอะ เสื่อมเร็ว

การรับประทานอาหารที่ให้แคลอรี่สูงจะทำให้ร่างกายมีการเผาผลาญสารอาหารมาก ก่อให้เกิดสารอนุมูลอิสระในร่างกายเพิ่มมากขึ้น อาหารที่เรารับประทานไม่ว่าจะเป็น โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต สุดท้ายก็จะถูกย่อยสลายกลายเป็นน้ำตาล ถ้าร่างกายรับแคลอรี่หนักทุกมื้อ ย่อมส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ๆ ต่ำ ๆ ร่างกายต้องหลั่งสารอินซูลินตลอดเวลาเพื่อนำน้ำตาลไปเก็บไว้ในเซลล์

คนที่มีไลฟ์สไตล์แบบนี้ย่อมเสี่ยงกับการเป็นโรคเบาหวานซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งทำให้แก่เร็ว สมัยก่อนการกินอาหารเน้นแป้งและน้ำตาล รองลงมาคือ โปรตีน ผักผลไม้และไขมัน แต่ถ้าต้องการรับประทานอาหารให้ดีไม่ให้แก่เร็ว ต้องเปลี่ยนใหม่ เพราะสิ่งที่ควรกินมากที่สุดคือ น้ำบริสุทธิ์ 1-2 ลิตรต่อวัน เน้นผักผลไม้ อาหารกลุ่มโปรตีนมีประโยชน์ ไขมันไม่อิ่มตัวกลุ่มโอเมก้า 3,6 และ 9 ส่วนสิ่งที่ควรกินให้น้อยที่สุดคือไขมันอิ่มตัวที่มีอยู่ในแป้งและน้ำตาล

2. กินหลากแหล่ง

เลือกผักออร์แกนิกหรือจากหลากแหล่งผลิต เพราะเราไม่รู้ว่าแหล่งปลูกมีสารปนเปื้อนหรือไม่ วิธีนี้ช่วยลดการสะสมสารบางอย่างในร่างกาย เพราะมีงานวิจัยบ่งชี้ว่า การลดการกินอาหารที่มีสารพิษไม่ให้ผลดีเท่ากับกินอาหารจากหลากแหล่งผลิต

3. ร้อนไปไม่ดี กรอบไปไม่เวิร์ค

หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่ผ่านกระบวนการร้อนจัดหรือทอดจนกรุบกรอบ นอกจากจะสูญเสียคุณค่าสารอาหารแล้ว ยังเพิ่มสารก่อมะเร็งมากขึ้นด้วย สู้เปลี่ยนมากินอาหารออร์แกนิกหรือผ่านกรรมวิธีนึ่งหรือต้มจะดีกว่า

4. ลดคาเฟอีน

ปกติร่างกายหลั่งฮอร์โมนไทรอยด์เพื่อกระตุ้นร่างกายให้เผาผลาญนำเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ได้เพียงพอ สร้างความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่ถ้าดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเข้าไปกระตุ้นร่างกายให้หลั่งสารอะดีนาลีนอยู่เป็นประจำ อะดรีนาลินทำงานคล้ายฮอร์โมนไทรอยด์ ทำให้ร่างกายลดการสร้างฮอร์โมนไทรอยด์ไปโดยปริยาย ส่งผลให้ต่อมไทรอยด์เสื่อมเร็วกว่าปกติ

ถ้าเกิดภาวะไทรอยด์ต่ำ ทำให้การเผาผลาญต่ำลง แม้เราจะรับประทานอาหารเท่าเดิม แต่อ้วนง่าย บางคนมีอาการมือเท้าเย็น เวียนศีรษะ ความจำเสื่อม ผิวและผมแห้ง ไขมันในเลือดสูงเสี่ยงต่อโรคหัวใจ เป็นลูกโซ่ไปเรื่อย ๆ

5. ดื่มนมมากไปกระดูกพรุน

ในวัยผู้ใหญ่ไม่มีเอนไซม์ที่ใช้ในการย่อยนม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนเอเชียมีอุบัติการณ์ Cow’s Milk Intolerance มากกว่าคนอเมริกาและยุโรป นอกจากนี้ผลการวิจัยล่าสุดในอเมริกาพบว่า คนที่ดื่มนมมาก ๆ มีความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุนมากกว่า เหตุผลคือ กรดแอมิโนบางอย่างในนมทำให้เลือดเป็นกรด ส่งผลให้เกิดการสูญเสียแคลเซียมและแมกนีเซียมจากกระดูกไปในปัสสาวะ เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนในวัยผู้ใหญ่ ทางที่ดีเลือกทานแคลเซียมจากแหล่งอื่น ๆ เช่น ปลาเล็กปลาน้อย ธัญพืช หรือเต้าหู้จะดีกว่า

6. ดื่มน้ำจากขวดแก้ว

การดื่มน้ำบริสุทธิ์จากขวดแก้วดีกว่าดื่มน้ำจากขวดพลาสติก เพราะสารพิษในพลาสติกละลายปะปนในน้ำตลอดเวลา ทำให้ร่างกายได้รับสารพิษ ก่อให้เกิดความเสื่อมอย่างไม่ต้องสงสัย

7. หน้าแก่เพราะฟิตเกิน

คุณเคยเห็นคนออกกกำลังกายหนักจนหน้าแก่ หรือบางคนฟิตจัด แต่จู่ ๆ เกิดหัวใจวายกะทันหันกลางสนามกีฬาหรือไม่ นั่นเป็นเพราะร่างกายเผาผลาญอาหารเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระมากขึ้นกว่าเดิม เป็นเหตุของความเสื่อมของร่างกาย ดังนั้นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่เหมาะสมจึงควรอยู่ที่ 30-45 นาทีต่อวัน จากนั้นยกเวทนิดหน่อย ทำ 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ ถือเป็นการออกกำลังกายที่ดี ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ส่งผลดีต่อร่างกายมากกว่าผลเสีย

8. ดื่มเหล้ามาก จากชายกลายเป็นหญิง

การดื่มเหล้าทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระในร่างกาย แถมเหล้าที่ดื่มเข้าไปกลายเป็นน้ำตาลสะสมในรูปไขมัน ถ้าเทียบการได้รับแคลอรี่จากโปรตีน 1 กรัม ให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี่ แต่เหล้าปริมาณเท่ากันให้พลังงานถึง 7 กิโลแคลอรี่ แถมยังทำให้ผู้ชายที่ดื่มจัดรูปร่างเหมือนถังเบียร์ หัวล้าน มีเต้านมเหมือนผู้หญิง นั่นเป็นเพราะเหล้ามีผลต่อตับ ทำให้มีการเปลี่ยนฮอร์โมนจากชายกลายเป็นหญิงมากขึ้น ซึ่งโดยธรรมชาติของฮอร์โมนเพศหญิงใช้ในการเก็บไขมัน คนที่ดื่มหนักจะลงพุงและแก่เร็ว นอกจากนี้ยังทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ในผู้หญิงที่ดื่มหนักมาก มีผลการวิจัยออกมาแล้วว่า เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมเช่นเดียวกัน

9. หยุดสูบเสียแต่วันนี้

สูบบุหรี่ 1 มวนกระตุ้นการสร้างสารอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้น 1014 ล้านโมเลกุล ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคถุงลมโป่งพองและโรคมะเร็ง

10. หลีกเลี่ยงโลหะหนักและสารปรอท

ในอเมริกาและยุโรปสั่งห้ามใช้อะมัลกัม (Amalgum : ทำมาจากปรอทซึ่งเป็นโลหะหนัก) ในการอุดฟันคนไข้ เพราะพบว่ามีการระเหยปล่อยสารปรอทเข้าสู่ร่างกายตลอดเวลา มีงานวิจัยบ่งชี้ว่าคนเป็นมะเร็งเต้านมและอัลไซเมอร์มีผลส่วนหนึ่งมาจากปรอทและโลหะหนัก ปัจจุบันคนเยอรมันหันมาใช้ “เซอร์โคเนียม” (เพชรรัสเซีย) ในการอุดฟัน รวมถึงการผลิตข้อเทียม กระดูก และรากฟันเทียมแทน เพราะไม่ทำปฏิกิริยาต่อร่างกาย

11.วางโทรศัพท์มือถือไกลตัว

มีงานวิจัยว่าการใช้โทรศัพท์มือถือซึ่งใช้คลื่นความถี่สูง เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง ถ้าเป็นไปได้ ควรวางโทรศัพท์ไว้ห่างจากร่างกายจะดีกว่า

12.เข้านอนตั้งแต่สี่ทุ่ม

ตั้งแต่ 4 ทุ่มถึงตีสองเป็นช่วงที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนเมลาโทนินซึ่งส่งผลให้หลับลึก ทำให้ความจำดี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และทำให้การหลั่งฮอร์โมนอื่น ๆ ในร่างกายสมดุล ขณะเดียวกันช่วงที่ร่างกายหลับลึกส่งผลให้โกร์ทฮอร์โมนหลั่งออกมาเพื่อเสริมสร้างโปรตีนในร่างกาย ได้แก่ คอลลาเจนใต้ผิวหนัง กล้ามเนื้อ และกระดูกให้แข็งแรง ช่วยลดไขมันที่สะสมในร่างกาย ถ้าไม่อยากแก่ อย่านอนดึกจนเกินไป

13. กินวิตามิน

วิตามินบางตัวออกฤทธิ์เป็นสารอนุมูลอิสระ เช่น กลุ่มวิตามินเอ อี ซี ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายต้องการตลอดเวลาเพราะสร้างเองไม่ได้ และต้องทำงานเป็นระบบ แต่ละตัวมีคุณสมบัติต่างกัน เช่น วิตามินซีละลายในน้ำ ช่วยปกป้องดีเอ็นเอ ส่วนวิตามินเอ อี โคเอนไซม์คิว 10 ละลายในไขมัน ช่วยปกป้องผนังเซลล์ให้แข็งแรง ถ้ามั่นใจว่าได้รับสารเหล่านี้เพียงพอจากการกินอาหารจะไม่กินวิตามินเสริมก็ได้

แต่ปัญหาก็คือ จะแน่ใจได้อย่างไรว่า อาหารที่กินเข้าไปให้วิตามินเหล่านั้นเพียงพอ เช่น ร่างกายต้องการวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัม เท่ากับส้ม 14 ลูก วิตามินอี 500 IU เท่ากับกินน้ำมันพีนัท 12.5 ช้อนโต๊ะ ซึ่งในชีวิตประจำวันเราไม่มีโอกาสได้รับอย่างครบถ้วน จึงต้องใช้วิตามินเสริมทดแทนสารอาหารที่ร่างกายขาดไป เราจะทราบได้อย่างไรว่าเราขาด ก็ด้วยการตรวจปริมาณสารเหล่านี้ในเลือดว่าเพียงพอหรือไม่ มีความจำเป็นต้องได้รับในปริมาณเท่าไหร่ต่อวันจึงจะเหมาะสมที่สุด

14. เสริมฮอร์โมน

ปกติร่างกายต้องใช้ฮอร์โมนในการทำงาน แต่ผู้หญิงผู้ชายถูกกำหนดไว้แล้วโดยเฉลี่ยเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไป ร่างกายจะเริ่มเข้าสู่ภาวะผลิตฮอร์โมนลดลง เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่พึงประสงค์ เช่น อ่อนเพลีย อารมณ์หงุดหงิด ความจำแย่ลง การเผาผลาญลดลง ร่างกายเปลี่ยนแปลง เช่น ผิวหนังเหี่ยวย่น แห้ง ผมร่วง ตามหลักการของเวชศาสตร์ชะลอวัย หรือ Anti-Aging Medicine นั้น ถ้าไม่มีข้อห้าม สามารถได้รับฮอร์โมนทดแทนเพื่อรักษาสมดุลเหล่านั้นกลับคืนมา แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
Keang56
Keang56

จำนวนข้อความ : 1692
Join date : 13/10/2009
ที่อยู่ : ในใจน้องๆ(สาว)

ขึ้นไปข้างบน Go down

กาทู้สาระ - Page 5 Empty Re: กาทู้สาระ

ตั้งหัวข้อ  Yoon Mon Dec 21, 2009 9:05 am

น่าจะส่งมาก่อนหน้านี้ซัก 20 ปี ตอนนี้ไม่ทันแล้ว
Yoon
Yoon

จำนวนข้อความ : 878
Join date : 13/10/2009
ที่อยู่ : Dubaiบุรี 元首相

ขึ้นไปข้างบน Go down

กาทู้สาระ - Page 5 Empty Re: กาทู้สาระ

ตั้งหัวข้อ  Keang56 Mon Dec 21, 2009 10:16 am

แก่เกินแกง ว่างั้นเหอะ อิอิ
Keang56
Keang56

จำนวนข้อความ : 1692
Join date : 13/10/2009
ที่อยู่ : ในใจน้องๆ(สาว)

ขึ้นไปข้างบน Go down

กาทู้สาระ - Page 5 Empty Re: กาทู้สาระ

ตั้งหัวข้อ  Keang56 Wed Dec 23, 2009 12:13 pm

10 อาหาร...เสริมพลังทางเพศ
เชื่อหรือไม่ว่า ผักและผลไม้ที่เราเลือกทานกันทุกวันนี้ มีประสิทธิภาพในการเสริมสร้างความต้องการทางเพศ หรือเรียกสั้นๆ ว่า เซ็กซ์ ได้ดีเทียบเท่ากับ ไวอากร้า ทีเดียว

เซเลรี่
ผัก ตระกูลคึ่นช่ายแบบนี้ แม้ไม่ค่อยเป็นที่นิยมหรือรู้จักของคนไทยเท่าไหร่ แต่สรรพคุณกลับไม่น่ามองข้าม เพราะเซเลรี่มีสาร แอนโดรสเตอโรน (Androsterone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นอารมณ์ทำให้ทั้งชายและหญิงที่ได้ลิ้มลองรสชาติของ เซเลรี่ เคลิบเคลิ้มได้ตามๆกัน

หอยนางรมสด
เป็น ที่ทราบกันอยู่นานนมแล้วว่า ทานหอยนางรมแล้วคึก เพราะอะไรนะหรือ ก็เพราะว่าหอยมีธาตุสังกะสี ที่เพิ่มจำนวนสเปิร์มและฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน นอกจากนั้นในหอยนางรมตัวขาวๆ ยังมีสาร โดพามิน (Dopamine) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยเพิ่มความสนุกในการมีเซ็กซ์ ดังนั้นนานๆ ทีอย่าลืมป้อนหอยนางรมสดให้หวานใจคุณบ้างนะ

กล้วย
ประกอบ ไปด้วยเอนไซน์ Bromelain ที่เชื่อว่าสามารถเพิ่มสัญชาติญาณทางเพศให้ผู้ชายได้ นอกจากนั้นกล้วยผลยาวๆ นี้ยังมีโซเดียม และวิตามิน บีรวม ที่เพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย ส่วนจะทานกล้วยอย่างไรให้เร้าใจ คงไม่ต้องแนะ เพราะผู้หญิงมักเรียนรู้วิธีการทานกล้วยให้ยั่วยวนได้ง่ายๆ

อโวคาโด
ผล ไม้รูปร่างประหลาดมีส่วนผสมของกรด โฟลิค ที่ช่วยระบบเผาผลาญโปรตีน ช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย นอกจากนั้นยังมีวิตามินบี 6 และโปแตสเซี่ยม ที่ช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศให้ทั้งชายและหญิง วิธีทานอโวคาโด ง่ายๆ แค่ผ่าครึ่งผลแล้วตักเนื้อในด้วยมือของคุณเอง แล้วให้หญิงสาวของคุณขบกินเบาๆ

อัลมอนต์ หรือเมล็ดถั่วต่างๆ
เมล็ด มหัศจรรย์เหล่านี้มีสารที่ช่วยเพิ่มฮอร์โมนให้กับผู้ชาย และกลิ่นหอมของมันยังช่วยเพิ่มความเสน่หาให้คุณทั้งสองได้ด้วย ดินเนอร์มื้อนี้อย่าลืมเทียนหอมกลิ่นอัลมอนต์เพิ่มบรรยากาศ พร้อม ไอศครีมผสมอัลมอนต์ปิดท้ายซักถ้วย

มะม่วง, พีช, สตรอเบอร์รี่
อะไร จะหวานฉ่ำเท่ากับกัดกินผลไม้เหล่านี้ ผลไม้เหล่านี้มีรูปร่าง ความฉ่ำที่เพิ่มอารมณ์ปรารถนาและยังมีวิตามินซีเพิ่มความสวยใสให้ผิวด้วย ลองชโลมน้ำผลไม้เหล่านี้ลงบนคู่รักของคุณ แล้วเช็ดมันออกด้วยริมฝีปากบางเฉียบของคุณ หรือ หั่นผลไม้เหล่านี้เป็นชิ้นเล็กๆ แล้วป้อนสาวเจ้าตอนที่เธอกำลังทำท่าออรัลเซ็กซ์ก็เข้าท่าไม้น้อย

ไข่ รวมทั่งไข่นก ไขปลา
มี วิตามินสูง ทั้งบี 5 และบี 6 ที่ช่วยปรับระดับของฮอร์โมนและลดความเครียด ซึ่งทั้งสองนี้มีผลต่อความต้องการทางเพศ อยากเปลี่ยนรสชาติการบำรุงด้วยไข่ดิบ ลองเปลี่ยนมาลิ้มรสไข่ปลาคาเวียร์ จิบกับแชมเปญ คงเพิ่มสีสันกับกิจกรรมที่คุณทั้งคู่จะเริ่มขึ้นได้ไม่น้อย

กระเทียม
แม้ กลิ่นจะทำร้ายบรรยากาศสวยๆของคุณ แต่ประสิทธิภาพของกระเทียมที่มีสาร อัลลีซิน (Allicin) ที่ช่วยเพิ่มความดันเลือด ให้สูบฉีด เพิ่มความต้องการทางเพศ สำหรับใครที่ไม่ชอบกลิ่นกระเทียมสามารถเลือกทานแบบแคปซูลแทนได้

ชอกโกแลต
ของ ว่างสุดโปรดของสาวๆ ที่มีสาร Theobromine คล้ายคาเฟอีน และ Phenylethylamine สารเคมีที่เชื่อว่าเมื่อทานแล้วสามารถผลิตความรู้สึกว่า “รัก” ให้ผู้ที่ทานได้ นอกจากนั้นชอคโกแลตยังมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ (Anti-oxidants) ที่ช่วยป้องกันโรคและดีต่อสุขภาพโดยรวม

แม้อาหารเหล่านี้มีส่วนเสริมสร้างความรักและเซ็กซ์ของคุณให้มีสีสัน แต่อย่าลืมว่าอาหารหรือผลไม้บางชนิดอาจไม่ดีต่อสุขภาพของคนทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาหารที่เพิ่มความดันโลหิต คนที่เป็นโรคความดันสูง ต้องระวัง!!!
Keang56
Keang56

จำนวนข้อความ : 1692
Join date : 13/10/2009
ที่อยู่ : ในใจน้องๆ(สาว)

ขึ้นไปข้างบน Go down

กาทู้สาระ - Page 5 Empty Re: กาทู้สาระ

ตั้งหัวข้อ  Keang56 Thu Dec 24, 2009 4:06 pm

ภาพนี้แก้เมื่อยคอได้ อ่านให้จบนะ

กาทู้สาระ - Page 5 Ewl92pp4
Keang56
Keang56

จำนวนข้อความ : 1692
Join date : 13/10/2009
ที่อยู่ : ในใจน้องๆ(สาว)

ขึ้นไปข้างบน Go down

กาทู้สาระ - Page 5 Empty Re: กาทู้สาระ

ตั้งหัวข้อ  MO56 Thu Dec 24, 2009 8:52 pm

มีหลากหลายอารมณ์เหลือเกินน่ะท่าน... santa
MO56
MO56

จำนวนข้อความ : 80
Join date : 16/10/2009

ขึ้นไปข้างบน Go down

กาทู้สาระ - Page 5 Empty Re: กาทู้สาระ

ตั้งหัวข้อ  cha'56 Thu Dec 24, 2009 9:39 pm

MO56 พิมพ์ว่า:มีหลากหลายอารมณ์เหลือเกินน่ะท่าน... santa

ยางงงงง เมิงยังไม่เจอรมณ์ เศร้า ก้อ........
cha'56
cha'56

จำนวนข้อความ : 598
Join date : 14/10/2009

ขึ้นไปข้างบน Go down

กาทู้สาระ - Page 5 Empty Re: กาทู้สาระ

ตั้งหัวข้อ  MO56 Thu Dec 24, 2009 10:13 pm

cha'56 พิมพ์ว่า:
MO56 พิมพ์ว่า:มีหลากหลายอารมณ์เหลือเกินน่ะท่าน... santa

ยางงงงง เมิงยังไม่เจอรมณ์ เศร้า ก้อ........
รุ่นนี้มีรมณ์ เศร้าด้วยหรอ...
MO56
MO56

จำนวนข้อความ : 80
Join date : 16/10/2009

ขึ้นไปข้างบน Go down

กาทู้สาระ - Page 5 Empty Re: กาทู้สาระ

ตั้งหัวข้อ  taey56 Fri Dec 25, 2009 6:10 am

MO56 พิมพ์ว่า:
cha'56 พิมพ์ว่า:
MO56 พิมพ์ว่า:มีหลากหลายอารมณ์เหลือเกินน่ะท่าน... santa

ยางงงงง เมิงยังไม่เจอรมณ์ เศร้า ก้อ........
รุ่นนี้มีรมณ์ เศร้าด้วยหรอ...
ดดเส้า
taey56
taey56

จำนวนข้อความ : 1322
Join date : 12/10/2009

ขึ้นไปข้างบน Go down

กาทู้สาระ - Page 5 Empty Re: กาทู้สาระ

ตั้งหัวข้อ  Keang56 Fri Dec 25, 2009 9:50 am

cha'56 พิมพ์ว่า:
MO56 พิมพ์ว่า:มีหลากหลายอารมณ์เหลือเกินน่ะท่าน... santa

ยางงงงง เมิงยังไม่เจอรมณ์ เศร้า ก้อ........

เศร้า..... สุดกระเดี๋ยว
Keang56
Keang56

จำนวนข้อความ : 1692
Join date : 13/10/2009
ที่อยู่ : ในใจน้องๆ(สาว)

ขึ้นไปข้างบน Go down

กาทู้สาระ - Page 5 Empty Re: กาทู้สาระ

ตั้งหัวข้อ  cha'56 Fri Dec 25, 2009 10:36 am

Keang56 พิมพ์ว่า:
cha'56 พิมพ์ว่า:
MO56 พิมพ์ว่า:มีหลากหลายอารมณ์เหลือเกินน่ะท่าน... santa

ยางงงงง เมิงยังไม่เจอรมณ์ เศร้า ก้อ........

เศร้า..... สุดกระเดี๋ยว

ยั้งๆ บ้างนะ


//เด๊ว กระฉุด ก๊ากกกก
cha'56
cha'56

จำนวนข้อความ : 598
Join date : 14/10/2009

ขึ้นไปข้างบน Go down

กาทู้สาระ - Page 5 Empty Re: กาทู้สาระ

ตั้งหัวข้อ  Keang56 Fri Dec 25, 2009 10:55 am

กาทู้สาระ หุๆๆ
Keang56
Keang56

จำนวนข้อความ : 1692
Join date : 13/10/2009
ที่อยู่ : ในใจน้องๆ(สาว)

ขึ้นไปข้างบน Go down

กาทู้สาระ - Page 5 Empty Re: กาทู้สาระ

ตั้งหัวข้อ  Jo 9Leow Mon Dec 28, 2009 10:04 pm

1. อย่าขับรถเร็วเกินกว่าที่เทวดาประจำตัวของคุณบินทันเป็นอันขาด

2. จงวางแผนล่วงหน้า : ฝนยังไม่ตกหรอกนะตอนโนอาห์สร้างเรือน่ะ

3. การแก้แค้นไม่ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นเหมือนกับดื่มน้ำทะเลเวลาหิวน้ำน่ะแหละ

4. ความหมายของความสุขขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณอยากให้มันเป็น

5. "อย่ากลัวความฝันของคุณ มันง่ายกว่าที่คิด"

6. นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ทุกๆ 4 คน จะมีคนหนึ่งที่สติเพี้ยนๆลองเช็คเพื่อนคุณสัก 3 คนสิ ถ้าทุกคนปกติดี ก็คุณน่ะแหละ

7. แบ่งปันรอยยิ้มของคุณให้กับทุกคน แต่ให้เก็บจุมพิตให้กับคนเพียงคนเดียว

8. บางครั้งวิธีช่วยที่ดีที่สุดที่คุณทำได้ก็คือ ผลักเขาแรงๆ (หมายถึงผลักดันให้เขาทำสิ่งที่ลังเลอยู่น่ะ)

9. น้ำตาจะให้คุณก็แค่ความเห็นอกเห็นใจ แต่เหงื่อจะทำให้คุณประสบความสำเร็จ

10. สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตนี้ไม่ใช่วัตถุ

11. มอบสองสิ่งให้กับลูกของคุณ อย่างหนึ่งคือรากฐานที่มั่นคง อีกอย่างก็คือ ปีกที่จะบินออกไปเอง

12. การออกกำลังกายที่ดีที่สุดสำหรับจิตใจคือการก้มลงแล้วช่วยคนอื่นให้ลุกขึ้น

13. คนคนหนึ่งอาจทำอะไรผิดพลาดได้หลายอย่างแต่มันจะกลายเป็นความพ่ายแพ้ไปจริงๆ เมื่อเขาเริ่มโยนความผิดไปให้คนอื่น

14.เพื่อนแท้คือคนที่เชื่อว่าคุณเป็นฟองไข่ที่สมบูรณ์แม้ว่าจริงๆแล้วคุณจะมีรอยร้าวไปแล้วครึ่งหนึ่ง

15. นี่คือวิธีที่จะรู้ว่าหน้าที่ของคุณบนโลกใบนี้จบสิ้นแล้วหรือยังถ้าคุณยังมีชีวิตอยู่ มันก็ยังไม่จบ

16. ชีวิตเรียนรู้ได้จากการย้อนระลึกถึง แต่ชีวิตต้องก้าวไปข้างหน้า

17. การใช้ชีวิตอยู่บนโลกนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายแพงมากแต่เราก็ได้เดินทางรอบดวงอาทิตย์ฟรีๆ เป็นของแถม

18. ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่มนุษย์เราจะร่ำรวยความผิดพลาดเกิดขึ้นเมื่อความร่ำรวย เริ่มครอบครองมนุษย์

19. เรารู้สึกดีที่มีความสำคัญ แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือเป็นคนดี

20. มีแต่ปลาตายที่ลอยตามน้ำ

21. คุณค่าของคนคนหนึ่งบอกได้จากวิธีที่เขาปฏิบัติต่อคนที่เขาไม่ต้องการ

22. เงยหน้าขึ้นรับแสงตะวัน แล้วคุณจะไม่มีวันพบกับเงามืด - เฮเลนเคลเลอร์

23. คนอ่อนแอเท่านั้นที่ให้อภัยใครไม่เป็นการให้อภัยเป็นคุณสมบัติของผู้เข้มแข็ง

24. คำว่า listen (ฟัง) นั้นใช้ตัวอักษรชุดเดียวกับคำว่า silent (เงียบ)

25. ไม่มีผู้โดยสารบนยานอวกาศที่ชื่อว่า "โลก" พวกเราทุกคนล้วนแต่เป็นลูกเรือทั้งสิ้น

26. ในโลกนี้ไม่มีคนแปลกหน้าสำหรับเรา มีแต่เพื่อนที่เรายังไม่ได้พบเท่านั้น

27. เมื่อคุณพูดความจริง คุณไม่จำเป็นต้องไปนั่งจำอะไรทั้งนั้น

28. เด็กๆต้องการความรักมากที่สุดเมื่อพวกเขาทำตัวไม่น่ารัก
Jo 9Leow
Jo 9Leow

จำนวนข้อความ : 798
Join date : 13/10/2009
ที่อยู่ : Moji Khonwan

ขึ้นไปข้างบน Go down

กาทู้สาระ - Page 5 Empty Re: กาทู้สาระ

ตั้งหัวข้อ  Keang56 Tue Dec 29, 2009 11:51 am

11 วิธี ขับรถปลอดภัย ก่อนไปเที่ยวต่างจังหวัด

เป็นการเตรียมพร้อมก่อนออกเดินทางไกล แม้ไม่ใช่เรื่องยากเย็น แต่ต้องทบทวนกันสักหน่อย

1.ตรวจสภาพคนให้พร้อม เป็นสิ่งแรก คือผู้ขับขี่ต้องพร้อม นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

2.ตรวจสภาพรถให้พร้อม น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้าย ไฟรถ ยางรถ

3.ยางรถเป็นเรื่องสำคัญต้องอยู่ในสภาพดีไม่ควรสึกเกิ นกว่า 3 ซม. และตรวจลมยางให้อยู่ในพิกัด

4.ระบบเบรกต้องพร้อม ควรเลือกใช้น้ำมันเบรกที่เหมาะสม รวมทั้งผ้าเบรก

5.ใบปัดน้ำฝนและหม้อน้ำ พร้อมปัดและฉีดน้ำได้ทันที

6.ไฟต้องพร้อมทุกดวง โดยเฉพาะไฟส่องทาง ควรตรวจให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ใช้งานได้ทุกเวลา

7.ตรวจหม้อระบายความร้อน เติมน้ำยาป้องกันน้ำเดือด

8.ขณะขับขี่ควรจำกัดความเร็ว ระวังช่วงถนนเปียก และควรลดความเร็วขณะถนนแห้ง

9.อย่าขับจี้คันหน้า ควรทิ้งห่าง 2 วินาที หากถนนเปียก 4 นาที หรือห่างไม่น้อยกว่า 10 เมตร

10.ใช้ไฟสูงบอกตำแหน่งรถ หากฝนตกหนักและทัศนวิสัยเลวมาก หรือในยามค่ำคืนสามารถใช้ไฟสูงได้ตลอดเวลา และต้องลดไฟลงเป็นไฟต่ำหากมีรถสวนเพื่อบอกตำแหน่งรถ

11.หลีกเลี่ยงการแซงโดยไม่จำเป็น หากจำเป็นต้องแซงให้อดใจรอสักนิด คิดว่าช้าหน่อยดีกว่า หากไม่แน่ใจหรือลังเลแม้แต่น้อย อย่าแซง

ประการสำคัญในการขับขี่ โดยเฉพาะการเดินทางไกล สติของผู้ขับขี่สำคัญที่สุด ต้องคิดว่าจะมีอะไรไว้ก่อน สงสัยประการใดเกี่ยวกับตัวผู้ขับขี่ ให้ไปอ่านข้อ 1 ใหม่ ทั้งต้องอย่าลืมว่า เมื่อนั่งหลังพวงมาลัย ทุกชีวิตอยู่ในความรับผิดชอบของเราทั้งสิ้น อย่าคิดว่านั่งขับรถไปเพียงคนเดียว จะทำอย่างไรก็ได้

ขอให้ปลอดภัยในการเดินทาง หากเรามีสติและไม่ประมาท ก็สามารถลดอุบัติเหตุไปครึ่งหนึ่ง-โชคดี
Keang56
Keang56

จำนวนข้อความ : 1692
Join date : 13/10/2009
ที่อยู่ : ในใจน้องๆ(สาว)

ขึ้นไปข้างบน Go down

กาทู้สาระ - Page 5 Empty Re: กาทู้สาระ

ตั้งหัวข้อ  Keang56 Mon Jan 04, 2010 11:53 am

++ อวัยวะเราก็ตอกบัตรเข้างานนะ ++
01.00 น. – 03.00 น. เป็นเวลาของตับ

ขอบอกเลยว่า . . . ทุกคนควรนอนหลับพักผ่อนให้เป็นประจำในช่วงเวลานี้ให้ได้ เพราะตับจะหลั่งสาร มีราโทนิน ที่จะทำให้หน้าอ่อนกว่าวัย เห็นมั้ยละว่าสำคัญแค่ไหน ที่สำคัญห้ามกินเด็ดขาดในเวลานี้เพราะจะทำให้ตับต้องทำงานหนักและเสื่อมเร็ว


03.00 น. – 05.00 น. เป็นเวลาของปอด

สิ่งที่ดีที่สุดที่ควรทำคือ ตื่นนอน ลุกขึ้นมาจากเตียงแล้วออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ซะหน่อย เขาบอกว่าถ้าตื่นนอนช่วงนี้เป็นประจำจะทำให้ผิวพรรณดี


05.00 น. – 7 .00 น. เป็นเวลาของลำไส้ใหญ่

เพราะฉะนั้นควรขับถ่ายให้เป็นนิสัยทุกเช้า ถ้าคนไหนมีโรคประจำตัวคือท้องผูกกว่าจะถ่ายแต่ละทียากเย็นเหลือเกิน แนะนำว่าให้ลองดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาว น้ำ 1 แก้ว + น้ำผึ้ง 1 ช้อน + น้ำมะนาว 4-5 ลูก
Keang56
Keang56

จำนวนข้อความ : 1692
Join date : 13/10/2009
ที่อยู่ : ในใจน้องๆ(สาว)

ขึ้นไปข้างบน Go down

กาทู้สาระ - Page 5 Empty Re: กาทู้สาระ

ตั้งหัวข้อ  Keang56 Tue Jan 05, 2010 12:53 pm

รู้ไว้ก็ดีไม่เสียหาย


** การกำจัดแมลงสาบ **
ในบ้านที่มักจะอยู่ตามครัว ตู้ โต๊ะ หรือตามซอกตามมุมต่างๆ เขาบอกว่าวิธีที่ได้ผลและง่ายแสนง่ายแต่คนมักไม่ทราบ หรือคิดไม่ถึง นั่นก็คือใช้ " พริกไทยเม็ด " ไปวางตามจุดต่างๆที่แมลงสาบชอบออกมาไต่ยั้วเยี้ย หรือแอบมากินเศษอาหาร โดยวางไว้ที่ละ 4-5 เม็ดก็พอ แค่นี้แมลงสาบได้กลิ่นก็ไม่มารบกวนแล้ว เพราะมันไม่ถูกกับกลิ่นพริกไทยเม็ด ไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลงให้เสียเงิน หรือเป็นอันตรายต่อคนในบ้าน พอกลิ่นหมดก็คอยเปลี่ยนใหม่ ข้อสำคัญ ระวังเด็กเล็กในบ้านอย่าคลานไปกินเข้าจะร้องไห้จ้าเพ ราะความเผ็ด



** กำจัดยุงและแมลงตัวเล็กๆ **
ไม่ให้มารบกวนตอนอ่านหนังสือหรือทำงานตอนกลางคืน เขาให้ใช้ " การบูร " มาห่อผ้าขาว หรือไปซื้ออย่างที่เขาห่อสำเร็จมาแล้วก็ได้
จากนั้นนำมาแขวนไว้ใกล้ๆกับหลอดไฟ หรือโคมไฟ เพื่อความร้อนจากหลอด หรือโคมจะทำให้กลิ่นการบูรค่อยๆ ระเหิดออกมาอย่างรวยริน ยิ่งกลิ่นออกมามากเท่าใด ยุงและแมลงก็จะบินหนี เพราะมันไม่ชอบกลิ่นการบูร แค่นี้ก็ไม่ต้องจุดยากันยุง หรือทายากันยุงให้เหนอะหนะเหนียวตัว



** ขับไล่หนูชุกชุม **
โดยไม่ต้องฆ่าให้บาปกรรม ด้วยการนำน้ำมันระกำ 10 ส่วน ผสมกับน้ำมันสะระแหน่อีก 90 ส่วนให้เข้ากัน แล้วเอาไปทาตามทางเดินของหนูหรือที่ๆหนูชอบมา มันจะไม่มาอีกเลยเมื่อได้กลิ่นน้ำมันทั้งสองอย่างนี้ แต่ทางที่ดีควรจะเก็บเศษอาหารให้หมด และทำบ้านเรือนให้สะอาดอย่ารกรุงรังเป็นดีที่สุด



** วิธีต้มไข่ให้ปอกเปลือกง่าย **
การต้มไข่นั้น ดูเป็นเรื่องไม่ยาก แต่เชื่อไหมว่า หากจะต้มไข่ให้ปอกเปลือกง่ายๆ หลายคนกลับทำไม่ได้ แถมปอกแล้วเนื้อไข่ติดเปลือกทำให้ไม่สวยงามอีก ดังนั้นวิธีง่ายๆที่จะต้มไข่ให้ปอกเปลือกได้ง่าย เขามีเทคนิคพิเศษด้วยการต้มไข่แบบธรรมดานี่แหละ แต่ให้เอา
" เกลือ " ใส่เข้าไปพอสมควรให้น้ำที่ต้มมีความเค็มเล็กน้อย กะว่าไข่สุกดีแล้วก็ให้เอาไข่นั้นแช่ในน้ำเย็นธรรมดา พอไข่ต้มเย็นลงก็จับปอกเปลือกได้ จะรู้สึกเลยว่าเปลือกไข่แกะออกง่าย และล่อนดีไม่ติดเหมือนปกติ ทำให้ปอกไข่ต้มออกมาได้อย่างสวยงามน่ากิน



** ต้มถั่วดำถั่วแดงให้สุกเร็ว **
การต้มถั่วดูเหมือนจะง่ายคล้ายๆกับต้มไข่ แต่จริงๆแล้วใครที่เคยต้มทั้งถั่วดำ ถั่วแดงจะรู้ดีว่ากว่าจะต้มสุกได้ต้องใช้เวลานานมาก จนหลายคนเอือม ไม่คิดอยากกินถั่วอีกเลย หรือไม่ก็ไปซื้อเขาสบายกว่า บางคนก็ใช้วิธีแช่น้ำคืนหนึ่งก่อนนำมาต้ม แต่เขาบอกว่าวิธีที่เร็วและสะดวกกว่าคือ ก่อนนำถั่วไปต้ม ให้เอาไป " คั่ว " ในกะทะให้สุกเสียก่อน เป็นการทำให้สุกครั้งแรกที่ใช้เวลาไม่นาน จากนั้นจึงเอาหม้อใส่น้ำแล้วใส่ถั่วลงไป โดยกะน้ำให้พอดีกับถั่วที่จะต้มแล้วตั้งไฟต้ม คราวนี้แหละถั่วที่ต้มก็จะสุกเร็วขึ้น เมื่อถั่วสุกก็ใส่น้ำตาลลงไป
กะให้หวานพอเหมาะหรือตามแต่ชอบ



** วิธีเก็บขนมปังให้นานวันขึ้น **
โดยมิให้เสีย หรือหมดอายุเร็วเขาบอกว่าไม่ใช่เรื่องยาก ขนมปังที่ซื้อมาแล้ว และเรากินไม่หมดก็ให้ห่อเก็บในพลาสติกเหมือนเดิมนั่น แหละเพียงแต่ให้เอาผ้า ขาวสะอาดๆมาห่อหุ้มเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง จากนั้นให้ผูกด้วยเชือกหรือใช้ยางรัดให้แน่น แล้วไปเก็บไว้ในตู้เย็นตามปกติธรรมดาไม่ต้องไปเข้าช่ องแข็ง ทำแบบนี้ขนมปังที่ว่าก็จะมีอายุนานขึ้นโดยไม่เสื่อมส ภาพ เมื่อเอาไปย่าง ปิ้ง ทาเนยแยม ก็ยังจะอร่อย และคงความนุ่มไว้เหมือนเดิม



** วิธีหาเสี้ยน หรือหนามที่ตำ ให้เห็นง่ายๆ **
เมื่อเราถูกเสี้ยนหรือหนามตำไม่ว่าที่ไหนก็ตาม บางทีเสี้ยนมีขนาดเล็กและกลมกลืนไปกับสีผิว ทำให้มองไม่เห็นแต่หากไม่เอาออกก็จะระคายเคืองเจ็บปว ดไม่หาย เขาบอกว่าวิธีการหาง่ายๆ คือให้ใช้ " ทิงเจอร์ไอโอดีน " แตะบริเวณที่ถูกเสี้ยนหรือหนามตำ สีของทิงเจอร์ฯ จะทำให้เห็นรอยเสี้ยนที่หักคาอยู่อย่างเด่นชัด ทำให้เราจัดการเอาออกได้โดยง่าย อีกทั้งทิงเจอร์ฯยังช่วยรักษาแผลสดได้ดีอีกด้วย



** วิธีบำรุงสายตาด้วยสมุนไพรราคาถูก **
นั่นคือ " ผักบุ้ง " ที่เราส่วนใหญ่รู้ๆ กันอยู่แล้วนี่เอง นอกจากจะกินผักบุ้งเพื่อให้ได้วิตามินเอที่มีมากมายใ นตัวผักมาบำรุงสายตา แล้ว คนไม่น้อยคงไม่รู้ว่า เราสามารถเอาผักบุ้งไทยมาล้างให้สะอาดแล้วปั่นให้ละเ อียด จากนั้นเอาผ้าขาวบางไปต้มฆ่าเชื้อเสียก่อนแล้วผึ่งให ้หมาด นำมาปิดไว้ที่หน้าแล้วให้ผักบุ้งไทยปั่นที่ว่ามาโปะบ นผ้าขาวบางบริเวณดวงตา ทั้งสองข้าง ปล่อยไว้นานพอควรจนรู้สึกว่ามีน้ำจากผักซึมเข้ามาที่ ดวงตาที่หลับอยู่ก็เอา ออก แล้วหลับตาล้างเปลือกตาให้สะอาด เขาว่าให้ทำเช่นนี้สัปดาห์ละครั้ง จะช่วยสุขภาพของดวงตาให้ดีขึ้น ทำให้สายตาแจ่มใสอยู่เสมอ



** วิธีแก้กลิ่นเต่าแรง **
นอกเหนือไปจาก "สารส้ม" ที่เขาแนะให้นำมาถูรักแร้ตอนอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ แล้ว ก็ยังมีอีกสูตรในการแก้กลิ่นเต่าแรงคือ " ใบตำลึง " กับ " ปูนแดง " โดยให้ตำใบตำลึงให้เละที่สุด แล้วนำมาผสมกับปูนแดงสักก้อนเล็กๆ ผสมให้ทั่วกันดีแล้ว ก็นำมาทาที่รักแร้เพียงบางๆ แล้วปล่อยให้แห้งไปเอง ควรทำตอนอาบน้ำก่อนไปทำงานตอนเช้าจะได้ทำงานได้ตลอดว ัน โดยไม่มีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ออกมารบกวนใครต่อใคร บางคนอาจคิดว่ายุ่งยากลำบาก หาซื้อพวกโรลออนทาง่ายกว่า แต่แนะไว้เผื่อวิธีอื่นไม่ได้ผล ก็ลองดูวิธีนี้ดูบ้าง



** วิธีป้องกันตะคริวขณะว่ายน้ำ **
มิให้เกิดเป็นตะคริวขึ้นมา ตะคริวหมายถึง อาการที่กล้ามเนื้อกระตุกเกร็ง ชาไปหมด ความรู้สึกเสียไป ถ้าเป็นบนบก ปล่อยให้อยู่นิ่งๆ
ก็จะหายไปเอง แต่ถ้าอยู่ในน้ำหรือกำลังว่ายน้ำอยู่จะอันตรายมาก เพราะทำให้จมน้ำตายได้ วิธีแก้ไขหรือป้องกันมิให้เกิดเป็นตะคริวขณะว่ายน้ำ หรือเล่นน้ำอยู่นั้น เขาให้ดื่มน้ำเกลือ เสียก่อนลงไปว่าย เกลือที่ใช้ก็คือ เกลือแกงในครัวนั่นแหละโดยเอาไปละลายน้ำให้มีรสเค็มพ อประมาณ ดื่มเสียให้เรียบร้อยก่อนลงไปดำผุดดำว่ายในน้ำ ทีนี้รับรองไม่เป็นตะคริวแน่นอน



** วิธีแก้อาการโรคบิด **
และไม่มียาแผนปัจจุบัน โรคบิดเป็นโรคทางเดินทางอาหาร เวลาถ่ายจะปวดมวนท้องไส้มาก โรคนี้ส่วนใหญ่ต้องแก้ด้วยยาแผนปัจจุบัน แต่หากไม่มี ก็ให้เอากระชายาสัก 5 ราก เผาไฟบดให้ละเอียดผสมน้ำ แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง ดื่มน้ำนี้สักอึกสองอึก เว้นอีกสักชั่วโมงก็ดื่มอีก ไม่นานก็จะหาย



** วิธีลดอาการไข้ ตัวร้อน **
ตามปกติเราก็กินยาแก้ปวดหัวตัวร้อน อย่างพาราเซตามอล แต่หากไม่มี แล้วเกิดอาการปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ขึ้นมา เขาบอกว่าให้ดื่มน้ำมะพร้าวสัก 1 แก้ว แล้วนอนพักผ่อน อาการไข้ก็จะทุเลาลง แล้วให้ดื่มแทนน้ำไปเรื่อยๆ ไม่นานอาการที่ว่าก็จะหายเป็นปกติ



** วิธีแก้แผลในปากที่ทำให้เจ็บแสบ **
น่ารำคาญ เขาบอกวิธีง่ายๆ ที่จะแก้ คือ ให้กินสับปะรด ยิ่งตรงไหนเป็นแผลให้อมไว้ตรงนั้นนานๆ ไม่ช้าไม่นานก็จะหายไปเอง
เหมือนหนามหยอกเอาหนามบ่ง ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนจากหนังสือดังกล่าวข้างต้น ที่เป็นเทคนิคหรือความรู้แบบชาวบ้านๆ ที่แม้ว่าโลกจะก้าวไปไกลเพียงไร แต่ใช่ว่าความเจริญเข้าไปถึงหมดทุกแห่ง ดังนั้นภูมิปัญญาเหล่านี้จึงยังมีประโยชน์และคุณค่าอ ยู่เสมอ ซึ่งคนสมัยปัจจุบันก็ยังสามารถทดลองใช้ได้ ข้อสำคัญส่วนใหญ่มีราคาไม่แพงและทำให้พึ่งตนเองได้ด้วย
Keang56
Keang56

จำนวนข้อความ : 1692
Join date : 13/10/2009
ที่อยู่ : ในใจน้องๆ(สาว)

ขึ้นไปข้างบน Go down

กาทู้สาระ - Page 5 Empty Re: กาทู้สาระ

ตั้งหัวข้อ  Keang56 Wed Jan 06, 2010 11:11 am

ทุกอวัยวะของร่างกายสามารถเป็นมะเร็งได้ ยกเว้นเส้นผมและเล็บ มะเร็งมีความสำคัญบั่นทอนชีวิตมนุษย์ไปแล้วปีละหลายหมื่นหลายแสนคนทั่วโลก แม้ความพยายามคิดค้นยารักษามะเร็ง และเครื่องมือพิเศษรักษามะเร็งมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และประสพผลสำเร็จไปแล้วระดับหนึ่ง เช่น เครื่องตรวจมะเร็งเต้านม Mammogram เครื่องจี้ไฟฟ้าด้วย Gas Argon เครื่องเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานความร้อน เพื่อจี้ทำลายเซลล์มะเร็ง


เพื่อยับยั้งการแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นตามที่ รายการปัญหาชีวิตและสุขภาพ ได้เผยแพร่ไปแล้วนั้น แต่ก็ยังไม่สามารถลดสถิติการเป็นมะเร็งหรือหยุดยั้งมะเร็งในระยะท้ายๆ ได้โดยสิ้นเชิง ความสำคัญของโรคมะเร็งอวัยวะใดๆ ก็ตามจะอยู่ที่การตรวจพบในระยะเริ่มแรก และรักษาให้ถูกวิธีโดยรวดเร็ว ก่อนที่จะลุกลามและมีการกระจายไปสู่อวัยวะข้างเคียง


ถึงแม้ว่าสาเหตุของการเกิดมะเร็งจะยังไม่ชัดเจน แต่ก็ทราบแน่ชัดว่า ปัจจัยที่เกี่ยวข้องและส่งเสริมให้เกิดมะเร็ง ได้แก่



1.พันธุกรรม ในครอบครัวที่มีญาติผู้ใหญ่เคยเป็นมะเร็ง หรือเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ลูกหลานหรือผู้สืบสกุล ควรจะต้องมีพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้องโดยเคร่งครัด และหมั่นตรวจกรองมะเร็งอยู่เสมอเพื่อป้องกัน หรือเพื่อรับรู้ว่าเป็นมะเร็งในระยะเริ่มแรก ซึ่งสามารถจะรักษาให้หายขาดได้


2.สิ่งแวดล้อม ได้แก่ มลภาวะต่างๆ สารปนเปื้อนในอาหาร ความเจ็บป่วย เช่น เชื้อไวรัสตับอักเสบบี มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับมะเร็งตับ เป็นต้น



3.พฤติกรรมสุขภาพที่ไม่เหมาะสม ได้แก่ การรับประทานอาหารปนเปื้อนสารก่อมะเร็ง การปล่อยให้ร่างกายทรุดโทรม การปล่อยให้เจ็บป่วยโดยไม่จำเป็นและไม่ป้องกัน การเสพสุรา การสูบบุหรี่เรื้อรัง เป็นต้น


5 ประการเพื่อการป้องกันมะเร็ง ประกอบด้วย



1.รับประทานผักตระกูลกะหล่ำให้มาก เช่น กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก ผักคะน้า หัวผักกาด บร็อกโคลี่ ฯลฯ เพื่อป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ลำไส้ส่วนปลายกระเพาะอาหาร และอวัยวะระบบทางเดินหายใจ

2.รับประทานอาหารที่มีกากมาก เช่น ผัก ผลไม้ ข้าว ข้าวโพด และเมล็ดธัญพืชอื่นๆ เพื่อป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่

3.รับประทานอาหารที่มีเบต้า-แคโรทีน และวิตามินเอสูง เช่น ผักสด ผลไม้ สีเขียว-เหลือง เพื่อป้องกันมะเร็งหลอดอาหาร กล่องเสียง และปอด

4.รับประทานอาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น ผักสด ผลไม้ต่างๆ เพื่อป้องกันมะเร็งหลอดอาหารและกระเพาะอาหาร

5.ควบคุมน้ำหนักตัว โรคอ้วนมีความสัมพันธ์กับโรคมะเร็งมดลูก ถุงน้ำดี เต้านม และลำไส้ใหญ่ การออกกำลังกายและลดการรับประทานอาหารที่ให้พลังงานสูง ก็จะช่วยป้องกันมะเร็งเหล่านี้ได้
Keang56
Keang56

จำนวนข้อความ : 1692
Join date : 13/10/2009
ที่อยู่ : ในใจน้องๆ(สาว)

ขึ้นไปข้างบน Go down

กาทู้สาระ - Page 5 Empty Re: กาทู้สาระ

ตั้งหัวข้อ  Keang56 Fri Jan 08, 2010 11:59 am

ฮวงจุ้ย : ข้อแนะนำและข้อห้ามสำหรับห้องนอน
ห้องนอนเป็นห้องที่สำคัญ เพราะช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนห้องนอนเป็นห้องหลักที่เราเลือกใช้ชีวิตอยู่ ดังนั้นห้องนอนที่ดีและห้องนอนที่เป็นลักษณะต้องห้ามจึงเป็นเรื่องควรรู้

หน้าต่างข้างเตียงนอนนำพลังงานที่ดีมาให้


หน้าต่างที่อยู่ข้างเตียงนอนจะนำพลังชี่แห่งจักรวาลเข้ามาให้คุณ ทิวทัศน์ของต้นไม้ก็เป็นมงคลด้วยเช่นกัน เพราะจะบ่งบอกถึงพลังงานแห่งการเจริญเติบโต เป็นเรื่องที่ดีที่ตื่นนอนมาทุกๆ เช้า แล้วเจอนกกำลังส่งเสียงร้องเพลง เพราะฉะนั้นหน้าต่างที่มองออกไปเป็นสวนแบบนี้นับว่ายอดเยี่ยมมาก เพราะจะนำมนตร์ขลังและพลังชี่ดีๆ มาให้คุณ

ห้องนอนโทนสีฟ้าบ่งบอกถึงพลังงานธาตุน้ำ เทคนิคการใช้สีฟ้านี้เหมาะสำหรับห้องนอนที่ตั้งอยู่ในทิศเหนือ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ และทิศตะวันออกของบ้าน ผนังสีท้องฟ้าจะช่วยให้คอนเซปต์สีฟ้าเป็นไปด้วยดีโดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายแบบ “น้ำท่วมด้านบน”

จำไว้ว่า อย่าได้ทาสีผนังและเพดานห้องนอนเป็นสีน้ำเงินหรือสีดำเป็นอันขาด เพราะการมีน้ำโอบล้อมแบบนี้มักจะสื่อถึง “อันตราย” โดยเฉพาะถ้าเพดานก็เป็นโทนฟ้าเช่นกัน โทนสีฟ้าอ่อนอย่างที่เห็นในภาพนี้ สีจะคล้ายๆ กับท้องฟ้ามากกว่าท้องน้ำ และกลมกลืนเข้ากับส่วนที่เหลือของห้องได้อย่างลงตัว


เอิร์ทโทนในฝันสำหรับห้องนอนในทิศตะวันตกเฉียงใต้ & ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ


การตกแต่งที่โดดเด่นด้วยสีเอิร์ทโทนบ่งบอกถึงพลังงานธาตุดิน เทคนิคการใช้สีโทนนี้เหมาะกับห้องนอนที่ตั้งอยู่ในทิศตะวันตกเฉียงใต้และทิศตะวันออกเฉียงเหนือของบ้าน รวมถึงทิศตะวันตกและทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

ข้อผิดพลาดหลักในห้องนอนห้องนี้ ก็คือ กระจกบานใหญ่ที่ยาวตั้งแต่พื้นจรดเพดานซึ่งสะท้อนภาพเตียงนอนทั้งหลัง กระจกถือเป็นข้อห้ามอย่างที่สุดในห้องนอนและจะยิ่งร้ายเป็นพิเศษถ้าอยู่ในห้องนอนใหญ่ของบ้าน กระจกบานใดก็ตามที่สะท้อนเงาของเตียงนอนจะสื่อถึงความอลหม่านในชีวิตสมรส อันจะนำมือที่สามเข้ามาก่อให้เกิดการนอกใจขึ้นแม้กับคู่ที่รักกันเหนียวแน่นที่สุดก็ตาม

แม้ในห้องนอนของคนโสดก็ไม่แนะนำให้มีกระจกที่สะท้อนเงาเตียงนอน เพราะบางคนเชื่อว่าจะเป็นการเชื้อเชิญภูตผีวิญญาณให้เข้ามาในห้องขณะที่คุณกำลังหลับ จำไว้ว่าขณะที่คุณหลับนั้นเป็นเวลาที่คุณเปราะบางที่สุด เพราะฉะนั้นก็อย่าได้เชื้อเชิญ “พลังงาน” ที่ไม่ได้รับเชิญให้เข้ามาในห้องนอนของคุณเลยจะดีกว่า


มีเพดานลาดเอียงต้องปฏิบัติอย่างระวัง


แม้ว่าเพดานลาดเอียงไม่ควรจะอยู่ในห้องนอน แต่หากคุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ก็ให้คุณจัดวางตำแหน่งเตียงนอนอย่างระมัดระวัง อย่าจัดเตียงให้อยู่ใต้เพดานที่ลาดโดยตรง เพราะจะเป็นการสร้างความไม่สมดุลให้เกิดขึ้นในขณะที่คุณหลับ นอกจากนี้เพดานที่ลาดเอียงยังก่อให้เกิดความรู้สึกที่ “อึดอัดคับแคบ” ให้หมั่นทำให้ห้องนี้สว่างไสวไว้ตลอดเวลา การทำให้ห้องสว่างเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดของการ “ยกระดับ” พลังงานในห้องนี้ได้ ทั้งยังเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการต่อกรกับผลกระทบเชิงลบใดๆ ที่มีสาเหตุมาจากเพดานลาดนี้อีกด้วย สีโทนร้อนเหมาะอย่างยิ่งกับห้องประเภทนี้ เพราะพลังงานธาตุไฟจะเพิ่มสูงขึ้น เทคนิคการใช้สีโทนนี้ยังเหมาะกับห้องนอนที่ตั้งอยู่ในทิศใต้ ทิศตะวันตกเฉียงใต้ และทิศตะวันออกเฉียงเหนืออีกด้วย

อย่างไรก็ตาม จำไว้ว่า แม้ห้องนอนที่มีโทนสีแดงนั้นจะยอดเยี่ยมสำหรับคู่สามีภรรยาที่อายุยังน้อย ซึ่งได้รับประโยชน์จากพลังงานหยาง แต่โทนสีนี้ก็ไม่เหมาะกับคู่ที่มีอายุมากแล้ว สีแดงทำให้เลือดสูบฉีดเร็วขึ้นระดับหนึ่ง โทนสีนี้ก็เลยไปทำให้ชีวิตรักของคุณกระชุ่มกระชวยขึ้น เหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาความหลงใหลเสน่หาและการได้ลงสนาม แต่ถ้าสิ่งที่คุณอยากได้และต้องการคือการได้นอนหลับอย่างเต็มอิ่มและเป็นสุข ก็ให้หลีกเลี่ยงไม่ใช้สีแดงในห้องนอนให้มากเกินไป


เตียงเดี่ยวสองหลังแสร้งทำเป็นเตียงคู่


เตียงสองหลังที่แยกกันแต่ใช้หัวเตียงแท่นเดียวกัน หากลักษณะการจัดเตียงเช่นนี้เป็นของคู่สามีภรรยา ก็จะเป็นลางไม่ดีต่อทั้งสองคน เพราะฟูกที่แยกกันสองผืนแต่ทำให้ดูเหมือนเป็นเตียงคู่หนึ่งหลัง เป็นสิ่งบ่งบอกถึงการแตกแยกกันในคู่ตั้งแต่ระดับรากฐานเลย ถ้าคุณต้องนอนเตียงที่แยกกันสองหลัง (อันเนื่องมาจากพฤติกรรมการนอนบางอย่าง หรือด้วยเหตุผลอื่นๆ) ก็ให้ใช้เตียงที่เห็นว่าแยกกันไปเลย เมื่อใดที่เตียงถูกทำให้ดูเหมือนเป็นอันเดียวกันทั้งๆ ที่ไม่ใช่ จะเป็นสัญลักษณ์ว่าทุกอย่างนั้นดูหอมหวานจากภายนอก แต่ความจริงนั้นขมขื่นยิ่งนัก


ห้องที่มีไม้เป็นพระเอก

พลังชี่ธาตุไม้นั้นกลมกลืนกับพลังงานของห้องนอนที่ตั้งอยู่ในมุมทิศตะวันออกเฉียงใต้และทิศตะวันออก ซึ่งเป็นทิศของธาตุไม้เสมอ ทั้งยังส่งเสริมห้องนอนที่ตั้งอยู่ในทิศใต้อีกด้วย แต่ไม่ว่าอย่างไร อะไรที่มากเกินไปมักก่อให้เกิดผลเสียได้ เพราะไม้ที่มากเกินไปนั้นสามารถก่อให้เกิดโรคนอนไม่หลับได้
Keang56
Keang56

จำนวนข้อความ : 1692
Join date : 13/10/2009
ที่อยู่ : ในใจน้องๆ(สาว)

ขึ้นไปข้างบน Go down

กาทู้สาระ - Page 5 Empty Re: กาทู้สาระ

ตั้งหัวข้อ  Keang56 Mon Jan 11, 2010 9:52 am

ทุกท่านคงเคยได้ยินข้อความที่ว่า “จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว” หรือ “อารมณ์แจ่มใส ใจเป็นสุข” จะเห็นว่า ใจมีความสำคัญ จะสุขหรือทุกข์จะเครียดหรือไม่เครียด จึงให้ความสำคัญอยู่ที่ใจ การคาดหวังกับคนอื่นว่าเขาจะทำให้ถูกใจเรา จะทำให้เราเกิดความเครียด ไม่มีอะไรที่จะได้ดั่งใจเราแม้แต่ตัวเราเอง เราอยากให้คนอื่นทำอะไรให้เรา เราต้องทำให้เขาก่อนเราไหว้เขา เขาก็ไหว้ตอบ เรายิ้มให้เขา เขายิ้มตอบเรา เราไม่ด่าเขาก่อน เขาก็ไม่ด่าเรา แทนที่จะโทษคนอื่น ก็โทษตัวเองซะ เป็นการปลูกรักไว้รอบข้าง ไม่ชอบใจใครให้พูดเพราะ ๆ ชอบใจใครให้พูดตรง ๆ ต้องระลึกไว้เสมอว่า เรื่องราวเมื่อวานนี้คืออดีต พรุ่งนี้อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด มันไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวัง สิ่งที่เกิดวันนี้สำคัญที่สุด มีเทคนิคง่าย ๆ ที่จะไม่ทำให้เครียด

+++++ การดูแลตนเองในการจัดการกับความเครียด +++++


1. จำสิ่งดี ๆ ที่จะทำให้สุขสบายใจ. แต่จุดอ่อนของคนมีข้อหนึ่งคือเรื่องที่อยากจำกลับลืม อยากลืมกับจำ มีเทคนิคที่จะฝึกสมองให้จำสิ่งดี ๆ นั่นคือ มีสมุดพก ปากกา คิดอะไรดี ๆ ก็เขียนไว้ มีไอเดียดี ๆ จดไว้ทันทีจะทำให้จำได้


2. อย่าชวนทะเลาะ โดยเฉพาะกับคนในครอบครัว. คนที่เรารักเพราะการทะเลาะกับคนที่เรารักเป็นสิ่งที่ทรมานที่สุด การหลีกเลี่ยงการทะเลาะมีหลักง่าย ๆ คือ บางครั้งทำเป็นตาบอด หูหนวก อะไรที่ไม่ควรจะเห็นก็ไม่ต้องดู อะไรที่ไม่ควรฟังก็ไม่จำเป็นต้องฟัง เดินหนีซะบ้างจะได้ไม่ต้องฟัง ไม่ต้องเห็น


3. เปลี่ยนอารมณ์โกรธเป็นอารมณ์ขัน. คนที่มีอารมณ์ขันใคร ๆ ก็อยากอยู่ใกล้ อยู่ใกล้แล้วสบายใจ เรื่องใหญ่ก็กลายเป็นเรื่องเล็ก


4. การเปลี่ยนบรรยากาศ ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจหรือเครียด อย่าต่อสู้กับความเครียดหนีไปเพื่อจะกลับมาตั้งต้นใหม่ เช่นไปเที่ยวซัก 5-7 วัน จะทำให้ชีวิตมีพลังสดชื่น กระปรี้กระเปร่า


5. หัดเลี้ยงสัตว์ บางครั้งการเลี้ยงสัตว์เป็นเพื่อน คอยห่วงใยวิ่งต้อนรับมันทำให้ชีวิตมีคุณค่า


6. ฟังเพลงที่ชอบ จะทำให้อารมณ์สงบลง


7. มีจิตวิญญาณที่ดี. ไปทำกุศลให้ผู้ด้อยโอกาส จะทำให้ไม่งกจะสบายใจที่ได้เป็นผู้ให้ เราอยากได้อะไรดี ๆ เราต้องเป็นผู้ให้คนอื่นก่อน จำไว้เสมอว่าให้ไปอย่างไรก็จะได้สิ่งนั้นกลับมา
Keang56
Keang56

จำนวนข้อความ : 1692
Join date : 13/10/2009
ที่อยู่ : ในใจน้องๆ(สาว)

ขึ้นไปข้างบน Go down

กาทู้สาระ - Page 5 Empty Re: กาทู้สาระ

ตั้งหัวข้อ  Yoon Mon Jan 11, 2010 9:55 am

สาธุ
Yoon
Yoon

จำนวนข้อความ : 878
Join date : 13/10/2009
ที่อยู่ : Dubaiบุรี 元首相

ขึ้นไปข้างบน Go down

กาทู้สาระ - Page 5 Empty Re: กาทู้สาระ

ตั้งหัวข้อ  Keang56 Mon Jan 11, 2010 9:59 am

Yoon พิมพ์ว่า:สาธุ

สงสัยต้องตั้งกาทู้ธรรมะ เพื่อสร้างภาพซักกาทู้ละมั้ง หุๆๆ bounce
Keang56
Keang56

จำนวนข้อความ : 1692
Join date : 13/10/2009
ที่อยู่ : ในใจน้องๆ(สาว)

ขึ้นไปข้างบน Go down

หน้า 5 จาก 9 Previous  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9  Next

ขึ้นไปข้างบน


 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ